Tuesday, April 15, 2008

Das Personalpronomen คำบุรุษสรรพนาม

ห่างหายจากการอัพบล็อกไปนาน วันนี้จึงต้องกลับมาตามคำเรียกร้อง (ของตนเอง) ฮิ ๆ คราวนี้เราลองมาทำความรู้จักกับคำบุรุษสรรพนาม (Das Personalpronomen)ในภาษาเยอรมันกันนะคะ ว่ามันมีหน้าตาเป็นอย่างไร และอันไหนใช้ตอนไหน (เรียนเพิ่มเติมได้จากเว็บนี้เช่นกัน คลิก)

คำบุรุษสรรพนาม (Das Persanalpronomen) คือ สรรพนามที่ใช้แทนชื่อบุคคลทั้งผู้พูด ผู้ฟังหรือผู้ที่เรากล่าวถึง อาจเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ได้ จากที่เคยเรียนเรื่องไวยากรณ์ภาษาไทยมาตั้งแต่สมัยมัธยมจำได้ว่า บุรุษสรรพนามนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
บุรุษสรรพนามที่ 1 หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนตัวผู้พูด เช่น ฉัน ดิฉัน ผม ฯลฯ
บุรุษสรรพนามที่ 2 หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนตัวผู้ฟัง เช่น คุณ เธอ ฯลฯ
บุรุษสรรพนามที่ 3 หมายถึง สรรพนามที่ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง เช่น เขา ท่าน มัน ฯลฯ
ทีนี้พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมคะว่าบุรุษสรรพนามคืออะไร และเราจะใช้ตอนไหน คำบุรุษสรรพนามจะมีการก (หน้าที่ของคำ)เช่นเดียวกันกับคำนาม ดังนี้คือ

1. Nominativ คำบุรุษสรรพนามการกประธาน (พูดง่าย ๆ ว่า คำบุรุษสรรพนามทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค เช่น ich (ฉัน), du (เธอ), er (เขา) sie (หล่อน), Sie (คุณ)
2. Akkusativ คำบุรุษสรรพนามการกกรรมตรง (คำบุรุษสรรพนามทำหน้าที่เป็นกรรมตรงของประโยค) เช่น mich (ฉัน), dich (เธอ), ihn (เขา), sie (หล่อน), Sie (คุณ)
3. Dativ คำบุรุษสรรพนามการกกรรมรอง (คำบุรุษสรรพนามทำหน้าที่เป็นกรรมรองของประโยค) เช่น mir (ฉัน), dir (เธอ), ihm (เขา), ihr (หล่อน), Ihnen (คุณ)
4. Genitiv คำบุรุษสรรพนามการกแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น meiner (ของฉัน) , deiner (ของเธอ), seiner (ของเขา), ihrer (ของหล่อน), Ihrer (ของคุณ)

สำหรับการเรียนภาษาเยอรมัน จะแบ่งคำบุรุษสรรพนามออกเป็น 2 ประเภท เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและผันกริยา เปิดดูตารางการผันที่นี่

โอกาสหน้าจะนำเสนอตัวอย่างประโยคของบุรุษสรรพนามในการกต่าง ๆ นะคะ วันนี้ต้องขอตัวก่อนดึกแล้วอ่ะ ง่วง ๆ หลับฝันดีทุกคนนะคะ







Wednesday, April 9, 2008

อาชีพต่าง ๆ (der Beruf)



วันนี้เราลองมารู้จักอาชีพต่าง ๆ ในภาษาเยอรมันกันบ้างนะคะ แม้ว่าจะไม่สำคัญมากแต่เรียนประดับความรู้ไว้ ก็คงไม่เสียหลายใช่ไหมคะ จากที่เคยพูดไว้เสมอว่าภาษาเยอรมันเค้าแยกเพศของคำนามกันชัดเจน ว่าเป็นชายหรือหญิง หรือไม่มีเพศ อาชีพต่าง ๆ ก็เช่นกันค่ะ มาดูกันเลยดีกว่า

เลขานุการ
der Sekertär (แดรฺ เซ็ค-เคร็ท-เท่อะรฺ)
die Sekertärin (ดี เซ็ค-เคร็ท-เท่อะ-ริน)

ลูกจ้าง
der Arbeitnehmer (แดรฺ อารฺ-ไบ้ทฺ-เน้-แมรฺ)
die Arbeitnehmerin (ดี อารฺ-ไบ้ทฺ-เน้-แม-ริน)

พนักงานบริษัท
der Büroangestellter(แดรฺ บือ-โร-อัน-เก-ชเตล-แทรฺ)
die Büroangestellte (ดี บือ-โร-อัน-เก-ชเตล-เท่อะ)

นักธุรกิจชาย/หญิง
der Geschäftsman (แดรฺ เก-เช้ฟทฺ-มัน)
die Geschäftsfrau (ดี เก-เช้ฟทฺ-เฟรา)

นักบัญชีชาย/หญิง
der Buchhalter (แดรฺ บูค-ฮาล-แทรฺ)
die Buchhalterin (ดี บูค-ฮาล-แท-ริน)

สถาปนิก
der Architekt (แดรฺ อารฺ-จิ-เทคทฺ)
die Architektin (ดี อารฺ-จิ-เทค-ทิน)

มัณฑนากร
der Innenaustatter (แดรฺ อิน-เน่น-เอาสฺ-ทัส-แทรฺ)
die Innenaustatterin (ดี อิน-เน่น-เอาสฺ-ทัส-แท-ริน)

ดีไซเนอร์
der Designer (แดรฺ ดี-ไซกฺ-แนรฺ)
die Designerin (ดี ดี-ไซกฺ-แร-ริน)

จิตรกร
der Maler (แดรฺ มา-แลรฺ)
die Malerin (ดี มา-แล-ริน)

นักร้องชาย/หญิง
der Sänger (แดรฺ เซง-แงรฺ)
die Sängerin (ดี เซง-แง-ริน)

นักแสดงชาย/หญิง
der Schauspieler (แดรฺ เช๊า-ชปีล-แลรฺ)
die Schauspielerin (ดี เช๊า-ชปีล-แล-ริน)

ช่างภาพ
der Fotograf (แดรฺ โฟ้โต้-กร้าฟ)
die Fotografin (ดี โฟโต้-กร้าฟ-ฟิ่น)

นายแบบ/นางแบบ
der Modell (แดรฺ โมเดลลฺ)
die Modell (ดี โมโดลลฺ)

ศิลปิน
der Künstler (แดรฺ คุ๊นสทฺ-แลรฺ)
die Künstlerin (ดี คุ๊นสทฺ-แล-ริน)

วิศวกร
der Ingenieur (แดรฺ อิน-เก-น๊อย)
die Ingenieurin (ดี อิน-เก-น๊อย-ริน)

ช่างไม้
der Tischler (แดรฺ ทิสชฺ-แลรฺ)
die Tischlerin (ดี ทิสชฺ-แล-ริน)

ช่างยนต์
der Mechaniker (แดรฺ เม-ชา-นิ-แครฺ)
die Mechanikerin (ดี เม-ชา-นิ-แค-ริน)

อาจารย์
der Professor (แดรฺ โปร-เฟส-ซอรฺ)
die Professorin (ดี โปร-เฟส-ซอ-ริน)

ครู
der Lehrer (แดรฺ เล-แรรฺ)
die Lehrerin (ดี เล-เร่อะ-ริน)

นักหนังสือพิมพ์
der Journalist (แดรฺ ยัว-นาล-ลิสทฺ)
die Journalistin (ดี ยัว-นาล-ลิส-ทิน)

ผู้สื่อข่าว
der Reporter (แดรฺ เร-พอรฺ-แทรฺ)
die Reporterin (ดี เร-พอรฺ-แท-ริน)

นักบิน
der Pilot (แดรฺ พิ-ล้อท)
die Pilotin (ดี พิ-ล้อท-ทิน)

พ่อบ้าน/แม่บ้าน
der Hausmann (แดรฺ เฮ้าสฺ-มันนฺ)
die Hausfrau (ดี เฮ้าสฺ-เฟรา)

ผู้เชี่ยวชาญ
der Expert (แดรฺ เอ๊กซฺ-แพ้รฺท)
die Expertin (ดี เอ็กซฺ-แพ้รฺท-ทิน)

คนทำสวน
der Gärtner (แดรฺ เก้รฺ-แนรฺ)
die Gärtnerin (ดี เก้รฺ-แน-ริน)

บริกรชาย/หญิง
der Kellner (แดรฺ เค็ลลฺ-แนรฺ)
die Kellnerin (ดี เค็ลลฺ-แน-ริน)

คนขับแท็กซี่ชาย/หญิง
der Taxifahrer (แดรฺ แท็กซี่-ฟา-แรรฺ)
die Taxifahrerin (ดี แท็กซี่-ฟา-แร-ริน)

ผู้ประกาศชาย/หญิง
der Ansager (แดรฺ อัน-ซา-แกรฺ)
die Ansagerin (ดี อัน-ซา-แก-ริน)

พนักงานต้อนรับชาย/หญิง
der Empfangsmitarbeiter (แดรฺ เอ็ม-ฟังสฺ-มิททฺ-อารฺ-ไบ้-แทรฺ)
die Empfangsmitarbeiterin (ดี เอ็ม-ฟังสฺ-มิททฺ-อารฺ-ไบ้-แท-ริน)

นักกฎหมาย
der Jurist (แดรฺ ยู-ริสทฺ)
die Juristin (ดี ยู-ริส-ทิน)

นักวิชาการ
der Wissenschaftler (แดรฺ วิส-เซ่น-ช้าฟทฺ-แลรฺ)
die Wissenschaftlerin (ดี วิส-เซ่น-ช้าฟทฺ-แล-ริน)

นักการเมือง
der Politiker (แดรฺ โพ-ลิ-ทิ-แครฺ)
die Politikerin (ดี โพ-ลิ-ทิ-แค-ริน)

ล่าม
der Dolmetscher (แดรฺ โดลลฺ-เม็ทสฺ-แชรฺ)
die Dolmetscherin (ดี โดลลฺ-เม็ทสฺ-แช-ริน)

ช่างตัดผ้า
der Schneider (แดรฺ ชไน-แดรฺ)
die Schneiderin (ดี ชไน-แด-ริน)

ช่างตัดผม
der Friseur (แดรฺ ฟริ-ซัวรฺ)
die Friseurin (ดี ฟริ-ซัว-ริน)

คนขายปลา
der Fischhändler (แดรฺ ฟิช-เฮ็นดฺ-แลรฺ)
der Fischhändlerin (ดี ฟิช-เฮ็นดฺ-แล-ริน)

คนทำเบเคอรี่
der Bäcker (แดรฺ เบ็ค-แครฺ)
die Bäckerin (ดี เบ็ค-แค-ริน)

พนักงานขายหนังสือ
der Buchhändler (แดรฺ บู๊ค-เฮ็นดฺ-แลรฺ)
die Buchhändlerin (ดี บู๊ค-เฮ็นดฺ-แล-ริน)

คนขายดอกไม้
der Blumenhändler (แดรฺ บลู-เม่น เฮ็ลดฺ-แลรฺ)
die Blumenhändlerin (ดี บลู-เม่น เฮ็ลดฺ-แล-ริน)

พนักงานขายยา
der Drogist (แดรฺ โดร-กิสทฺ)
die Drogistin (ดี โดร-กิส-ทิน)

พนักงานขาย
der Verkäufer (แดรฺ แฟรฺ-เค้า-แฟ่รฺ)
die Verkäuferin (ดี แฟรฺ-เค้า-แฟ-ริน)

พ่อครัว/แม่ครัว
der Koch (แดรฺ ค้อคชฺ)
die Köchin (ดี ค้อค-คิ่น)

บรรณารักษ์
der Bibliothekar (แดรฺ บิ-บลิ-โอ-เท้-แครฺ)
die Bibliothekarin (ดี บิ-บลิ-โอ-เท้-แค-ริน)

บุรุษไปรษณีย์
der Postbote (แดรฺ โพสทฺ-โบ้-เท่อะ)
die Postbotin (ดี โพสทฺ โบ้-ทิน)

เภสัชกร
der Apotheker (แดรฺ อา-โพ-เท้ค-แครฺ)
die Apothekerin (ดี อา-โพ-เท้ค-แค-ริน)

นายแพทย์/แพทย์หญิง
der Arzt (แดรฺ อารฺซทฺ)
die Ärztin (ดี เอรฺซ-ทิน)

สัตวแพทย์
der Tieratzt (แดรฺ เทียรฺ-อารฺซทฺ)
die Tierärztin (ดี เทียรฺ-เอรฺซ-ทิน)

บุรุษพยาบาล/พยาบาล
der Pfleger (แดรฺ เฟร-แกรฺ)
die Schwester (ดี ชเวส-แตรฺ)

ตำรวจ
der Polizist (แดรฺ โพ-ลิ-ซิสทฺ)
die Polizistin (ดี โพ-ลิ-ซิส-ทิน)

พนักงานธนาคาร
der Bankkaufmann (แดรฺ บั้ง-เค้าฟฺ-มันนฺ)
die Bankkauffrau (ดี บั้ง-เค้าฟฺ-เฟรา)

ผู้จัดการ
der Manager (แดรฺ เม-เน-แกรฺ)
die Managerin (ดี เม-เน-แก-ริน)

รู้จักอาชีพต่าง ๆ กันไปบ้างแล้วใช่ไหมคะ ยังมีอาชีพอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้นำเสนอให้ได้รู้จัก เอาเป็นว่าคราวหน้า หรือคราวต่อ ๆ ไปจะนำเสนอแล้วกันนะคะ วันนี้เหนื่อยจัง หลับฝันดีกันทุกคนค่ะ

Monday, April 7, 2008

คำถามที่พบบ่อย เมื่อเจอกันครั้งแรก (2)

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้ามาโพสต์เรื่องคำถามทั่วไปที่คนเรามักจะถามกันเมื่อเจอกันครั้งแรก คลิกดูได้ที่นี่ คราวนี้เราจะมาดูกันว่าคำถามอื่น ๆ ที่นอกจากการถามชื่อ ถามสถานะภาพ ถามหน้าที่การงาน ถามวันเดือนปีเกิดแล้ว เราสามารถถามอะไรได้อีกบ้าง

6. Wo sind Sie geboren? (โว ซินดฺ ซี เก-บอ-เร่น?) คุณเกิดที่ไหนเหรอ
Ich bin in Berlin geboren. (อิค บิน อิน แบรฺลิน เก-บอ-เร่น) ผม/ฉันเกิดที่เบอร์ลิน
Ich bin in Köhl geboren. (อิค บิน อิน โค๊ลลฺ เก-บอ-เร่น) ผม/ฉันเกิดที่เมืองโคโลญจ์
Ich bin in Bangkok geboren. (อิค บิน อิน บั้งค๊อก เก-บอ-เร่น) ผม/ฉันเกิดที่กรุงเทพฯ
Ich bin in Chiangmai geboren. (อิค บิน อิน เชียงใหม่ เก-บอ-เร่น) ผม/ฉันเกิดที่เชียงใหม่
Ich bin in ... geboren. (อิค บิน อิน ... เก-บอ-เร่น) ผม/ฉันเกิดที่...เติมชื่อเมืองลงไป
จากคราวที่แล้วเป็นการถามวันเกิด ทีนี้เกิดผู้ถามอยากทราบภูมิลำเนาเราว่าเกิดหรือโตที่ไหน เขาจะให้คำถามตามตัวอย่างข้างบนนั้นล่ะค่ะ Wo sind Sie geboren? เจอคำถามนี้ให้ตอบเป็นชื่อเมืองหรือจังหวัดที่เราเกิดนะคะ จำไว้ให้ดี

7. Wo wohnen Sie? (โว โว้นเน่น ซี?) คุณพักอยู่ทีไหนเหรอ?
Ich wohne in der Wilhelm Straße 115. ผม/ฉันพักอยู่ที่ถนน วิลเฮ็ม เลขที่ 115
(อิค โว้เน่อะ อิน แดรฺ วิลลฺเฮ็ลฺม ช-ตราเซ่อะ อายนฺ ฮุนแดรท ฟุนฟฺเซน)

Ich wohne in der Morit Straße 17. ผม/ฉันพักอยู่ที่ถนน โมริท เลขที่ 17
(อิค โว้เน่อะ อิน แดรฺ โมริท ช-ตราเซ่อะ ซีบเซน)
Ich wohne in der Heer Straße 5. ผม/ฉันพักอยู่ที่ถนนแฮรฺ เลขที่ 5
(อิค โว้เน่อะ อิน แดรฺ แฮรฺ ช-ตราเซ่อะ ฟุนฟฺ)
Ich wohne in der ... (อิค โว้เน่อะ อิน แดรฺ...) ผม/ฉันพักอยู่ที่ถนน...ใส่ชื่อถนนและบ้านเลขที่ลงไป

8. Wie lange sind Sie in Deutschland? (วี ลางเง่อะ ซินดฺ ซี อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ?)
คุณอยู่เยอรมันนานเท่าไรแล้ว?
Ich bin seit einer Woche in Deutschland. (อิค บิน ไซ้ทฺ อายนฺแนรฺ ว้อคเค่อะ อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉันอยู่เยอรมันมา 1 สัปดาห์แล้ว
Ich bin seit 3 Wochen in Deutschland. (อิค บิน ไซ้ทฺ ไตร ว้อคเค่น อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉันอยู่เยอรมันมา 3 สัปดาห์แล้ว
Ich bin seit einem Monat in Deutschland. (อิค บิน ไซ้ทฺ อายเน่ม โมนาท อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉัน อยู่เยอรมันมา 1 เดือนแล้ว
Ich bin seit 2 Monaten in Deutschland. (อิค บิน ไซ้ทฺ ซไว โมนาเท่น อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉัน อยู่เยอรมันมา 2 เดือนแล้ว
Ich bin seit einem Jahr in Deutschland. (อิค บิน ไซ้ทฺ อายเน่ม ยารฺ อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉัน อยู่เยอรมันมา 1 ปีแล้ว
Ich bin seit 10 Jahren in Deutschaland. (อิค บิน ไซ้ทฺ เซน ยาเร่น อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉัน อยู่เยอรมันมา 10 ปีแล้ว
Ich bin seit ... Monat(en)/Jahr(en) in Deutschland. (อิค บิน ...อิน ด๊อย-ช-ลันดฺ)
ผม/ฉัน อยู่เยอรมันมา...ปีแล้ว เติมตัวเลขและลักษณะนามลงไป
หมายเหตุ การบอกว่าอยู่มานานแค่ไหนแล้ว อาจบอกได้ง่าย ๆ (บ้าน ๆ) ว่า Ich bin....Monat(e)/Jahr(e) in Deutschland. แต่ว่าเป็นการพูดแบบไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และฟังไม่เสนาะหู แต่เข้าใจเท่านั้นเอง ดังนั้นควรใช้หรือพูดตามฟอร์มที่ให้ไว้จะดีกว่าค่ะ
ข้อสังเกต การบอกจำนวนในภาษาเยอรมัน แตกต่างจากภาษาไทย ตรงที่เค้าแยกเป็นพหูพจน์กับเอกพจน์ค่ะ ถ้ามากกว่า 1 แล้ว ลักษณะนามต้องเป็นเป็นพหูพจน์ทันที อย่างที่ได้เคยพูดไปแล้วในเรื่องการบอกจำนวนบุตรไงล่ะคะ ถ้าจำไม่ได้ก็ลองกลับไปดูใหม่ได้ที่นี่ค่ะ จากตัวอย่างข้างบนเห็นได้ชัดเจนเลยนะคะ die Woche-die Wochen, der Monat-die Monate, das Jahr-die Jahre จำไว้ก็ดีนะคะ รับรองว่าได้ใช้แน่นอนค่ะ

9. Wo arbeiten Sie? (โว อารฺไบเท่น ซี?) คุณทำงานที่ไหน
Ich arbeite bei Motorola. (อิค อารฺไบเท่อะ ไบ โมโตโรล่า) ผม/ฉันทำงานที่โมโตโรล่า
Ich arbeite bei Mcdonalds. (อิค อารฺไบเท่อะ ไบ แม็คโดนัลสฺ) ผม/ฉันทำงานที่แม็คโดนัลส์
Ich arbeite für Motorola. (อิค อารฺไบเท่อะ เฟือรฺ โมโตโรล่า) ผม/ฉันทำงานที่โมโตโรล่า
Ich arbeite für Mcdonalds. (อิค อารฺไบเท่อะ เฟือรฺ แม็คโดนัลสฺ) ผม/ฉันทำงานที่แม็คโดนัลส์
Ich arbeite für ... (อิค อารฺไบเท่อะ เฟือ...) ผม/ฉันทำงานที่...เติมชื่อบริษัทลงไป
Ich arbeite in einer Fabrik. (อิค อารฺไบเท่อะ อิน อายแนรฺ ฟาบริค) ผม/ฉันทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง
Ich arbeite im Krankenhaus. (อิค อารฺไบเท่อะ อิม ครางเค่นเฮ้าสฺ)
ผม/ฉันทำงานในโรงพยาบาล
Ich arbeite im Restaurant. (อิค อารฺไบเท่อะ อิม เรสเทอรอง) ผม/ฉันทำงานในภัตตาคาร
Ich arbeite in der Autoindustrie. (อิค อารฺไบเท่อะ อิน แดรฺ เอาโต้อินดัสทรี)
ผม/ฉันทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์
Ich arbeite in der Pharmazie. (อิค อารฺไบเท่อะ อิน แดรฺ ฟามาซี) ผม/ฉันทำงานในบริษัทผลิตยา

เอาล่ะค่ะ ทีนี้มาดูกันต่อ การบอกว่าทำงานที่ไหน มีวิธีบอกได้หลากหลายมาก แต่ดิฉันยกตัวอย่างมาแค่บางส่วนเท่านั้นเอง สังเกตจากตัวอย่างให้ดีนะคะ การบอกว่าทำงานที่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง (ที่ระบุชื่อบริษัท) ใช้บุรพบท bei และ für ค่ะ เช่น Ich arbeite bei/für Nokia.
ที่นี้มาถึงการระบุว่าทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าโรงงาน/บริษัทนั้นชื่ออะไร ให้ใช้ฟอร์มนี้ค่ะ Ich arbeite in einer Fabrik. หรือ Ich arbeite in der Industrie. หรืออาจทำงานในโรงพยาบาล หรือ ภัตตาคาร (Ich arbeite im Restaurant) ก็ใช้บุรพบท in เช่นกัน มาถึงตรงนี้แล้ว บางท่านอาจจะสงสัยว่าแล้ว im ล่ะ มาจากไหน อันนี้ต้องขอชี้แจงว่ามันเป็นโครงสร้างของไวยากรณ์ไปแล้วน่ะค่ะ อธิบายกันตรงนี้ก็ชักจะยุ่งยาก แต่ขอสักหน่อยแล้วกัน

in--ใน หรือ ข้างใน
Ich arbeite im Restaurant.
das Restaurant กรรมการก Dativ (กรรมรอง) ดังนั้นคำนำหน้านาม (Artikel) ต้องเปลี่ยนไปตามหน้าที่ของคำนามในประโยคนะคะ จาก das Restaurant เปลี่ยนเป็น dem Restaurant
ที่นี้คนเยอรมันเขาไม่นิยมพูดกันค่ะ ว่า Ich arbeite in dem Restaurant. ก็เลยเขียนใหม่เป็น
Ich arbeite im Restaurant. อย่างที่เห็นยังไงล่ะคะ


Sunday, April 6, 2008

การบอกวันเกิดและปีในภาษาเยอรมัน

ในชีวิตประจำวันของคนเราต่างมีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ทั้งเรื่องเวลา วันที่ จำนวนต่าง ๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวในชีวิตประจำวัน ในบทนี้เราจะมาดูเรื่องการบอกวันที่(เกิด) เดือน และ ปี เป็นภาษาเยอรมันกันค่ะ ที่ต้องย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นวันที่เกิด ก็เพราะว่าการบอกวันที่ธรรมดาในชีวิตประจำวัน มันแตกต่างจากการบอกวันเกิดน่ะค่ะ

วันที่ 1-31 (สำหรับบอกวันเกิดนะ)
เช่น Ich bin am 26. Mai 1966 geboren. ฉัน/ผม เกิดวันที่ 26 พฤษภาคม 1966
(อิค บิน อัม เซค อุนดฺ ซวานซิกเท่น ไม นอยนฺเซนฮุนแดรฺท เซค อุนดฺ เซคซิก เก-บอ-เร่น)

วันที่ 1 -- am ers-ten (อัม แอรฺส-เท่น)
วันที่ 2 -- am zwei-ten (อัม ซไว-เท่น)
วันที่ 3 -- am drit-ten (อัม ดริท-เท่น)
วันที่ 4 -- am vier-ten (อัม เฟียรฺ-เท่น)
วันที่ 5 -- am fünf-ten (อัม ฟุนฟฺ-เท่น)
วันที่ 6 -- am sechs-ten (อัม เซคสฺ-เท่น)
วันที่ 7 -- am sieb-ten (อัม ซีบ-เท่น)
วันที่ 8 -- am ach-ten (อัม อัค-เท่น)
วันที่ 9 -- am neun-ten (อัม นอยนฺ-เท่น)
วันที่ 10 -- am zehn-ten (อัม เซน-เท่น)
วันที่ 11 -- am elf-ten (อัม เอ็ลฟฺ-เท่น)
วันที่ 12 -- am zwölf-ten (อัม ซโวลฟฺ-เท่น)
...
วันที่ 20 -- am zwanzig-ten (อัม ซวานซิก-เท่น)
วันที่ 21 -- am einundzwanzig-s-ten (อัม อายนฺ อุนดฺ ซวานซิกสฺ-เท่น)
วันที่ 26 -- am sechundzwanzig-s-ten (อัม เซค อุนดฺ ซวานซิกสฺ-เท่น)
...
วันที่ 30 -- am dreizig-s-ten (อัม ไตรซิกสฺ-เท่น)
วันที่ 31 -- am einunddreizig-s-ten (อัม อายนฺ อุนดฺ ไตรซิกสฺ-เท่น)

ทีนี้เรามาลองดูว่าใน 1 ปีที่มี 12 เดือนนั้นภาษาเยอรมันเขาพูดว่ายังไงกันบ้าง และอ่านพูดหรืออ่านออกเสียงชื่อเดือนแบบเป็นลำดับที่เขามีวิธีการอ่านอย่างไร

ชื่อเดือน
เช่น Ich bin am 1.1.1999 geboren. ผม/ดิฉันเกิดวันที่ 1 มกราคม 1999
(อิค บิน อัม แอรฺสเท่น แอรฺสเท่น นอยนฺเซนฮุนแดรฺท นอยนฺ อุนดฺนอยนฺซิก เก-บอ-เร่น)
Ich bin am 19.8.2005 geboren. ผม/ดิฉันเกิดวันที่ 19 สิงหาคม 2005
(อิค บิน อัม นอยนฺเซนเท่น อัคเท่น ซไวเท่าเซ่นฟุนฟฺ เก-บอ-เร่น)
der Januar--ers-ten (แดรฺ ยานัวรฺ--แอรฺส-เท่น)
der Februar--zwei-ten (แดรฺ เฟ็บบรัวรฺ--ซไว-เท่น)
der März--drit-ten (แดรฺ แม็รฺซ--ดริท-เท่น)
der April--vier-ten (แดรฺ อาพริล--เฟียรฺ-เท่น)
der Mai--fünf-ten (แดรฺ ไม--ฟุนฟฺ-เท่น)
der Juni--sechs-ten (แดรฺ ยูนิ--เซคสฺ-เท่น)
der Juli--sieb-ten (แดรฺ ยูลิ--ซีบ-เท่น)
der August--ach-ten (แดรฺ เอ้ากูสทฺ--อัค-เท่น)
der September--neun-ten (แดรฺ เซ็พเท็มเบ่อะรฺ--นอยนฺ-เท่น)
der Oktober--zehn-ten (แดรฺ โอ้คโทเบ่อะรฺ--เซน-เท่น)
der Noverber--elf-ten (แดรฺ โนเฟมเบ่อะรฺ--เอ็ลฟฺ-เท่น)
der Dezember--zwölf-ten (แดรฺ ดีเซมเบ่อะรฺ--ซโว๊ลฟฺ-เท่น)

การอ่านเลขปี
เลขปีในภาษาเยอรมันมีหลักการอ่านเช่นเดียวกันกับในภาษาอังกฤษค่ะ เช่น
1998 (นอยนฺเซนฮุนแดรฺท อัคทฺ อุนดฺ นอยนฺซิก)
1886 (อัคท์เซนฮุนแดรฺท เซ็คสฺ อุนดฺ อัคทฺซิก)
1722 (ซีบเซนฮุนแดรฺท ซไว อุนดฺ ซวานซิก)
1555 (ฟุนฟฺเซนฮุนแดรฺท ฟุนฟฺ อุนดฺ ฟุนฟฺซิก)
*เฉพาะ ปี 1000-1099 หรือ 2000-2099 อ่านตามปกติ
1001 (อายนฺเทาเซ่นอายนสฺ)
1020 (อายนฺเทาเซ่นซวานซิก)
2003 (ซไวเทาเซ่นไตร)
2008 (ซไวเทาเซ่นอัคทฺ)
หวังว่าผู้เรียนคงจะพอเข้าใจการบอกตัวเลขในวันเกิดการมากขึ้นนะคะ ลองฝึกฝนพูดบ่อย ๆ แล้วเราจะจำได้และใช้คล่องค่ะ

หมายเหตุ ที่เห็นเครื่องหมายขีด (-) ทั้งหลายในการเขียนจริง ๆ ไม่มีนะคะ แต่ทีได้นำเสนอไว้ แค่ต้องการให้ผู้เรียนเห็นชัดเจนเท่านั้นเองค่ะ



คำถาม ที่พบบ่อยเมื่อเจอกันครั้งแรก (1)

หายหน้าไป 1 สัปดาห์ วันนี้ฤกษ์งามยามดีมีโอกาสได้มาอัพบล็อกสักที แต่ 1 สัปดาห์ผ่านไปตั้งแต่เริ่มทำบล็อกนี้ไม่มีคนเข้ามาอ่านเลยอ่ะ ก็มีแต่เจ้าของบล็อกที่ขยันเปิดทุกวัน ๆ เข้ามาเช็คเรทติ้ง (ฮิ ๆ ) แต่ไม่เห็นตัวเลขผู้เข้าชมมันขยับเลยอ่ะ กลุ้มใจจัง

เอาล่ะ ตามที่ขึ้นหัวข้อไว้ ลองนึกถึงบ้านเราดูนะคะ เจอกันครั้งแรกเราถามอะไรเค้าบ้าง ต้องบอกนิดนึงว่าคนไทยเป็นคนเปิดเผย อาจถามล้วงลึง ซอกซอนไปถึงไหนต่อไหน ทีนี้มาเจอฝรั่งถามบ้าง มาดูซิว่าเขาจะถามอะไรเรา (อันนี้เป็นตัวอย่างคำถามที่เจอบ่อย ๆ )


คำถามที่พบบ่อย
1. Woher kommen Sie? (โวแฮรฺ คอมเม่น ซี)
คุณมาจากไหนเหรอ?
Ich komme aus Thailand. (อิค คอมเม่อะ เอาสฺ ไทลันดฺ) ดิฉันมาจากประเทศไทยค่ะ
Ich komme aus der Türkei. (อิค คอมเม่อะ เอาส์ แดรฺ ทัวไค) ผมมาจากตุรกีครับ
Ich komme aus der Schweiz. (อิค คอมเม่อะ เอาส์ แดรฺ ชไว) ผมมาจากสวิตเซอร์แลนด์ครับ
Ich komme aus ... (อิค คอมเม่อะ เอาสฺ....) ดิฉันมาจาก....ใส่ชื่อประเทศลงไป
ข้อสังเกต ชื่อประเทศบางประเทศจะมี Artikel นำหน้าเวลาผัน Artikel ต้องผันให้ถูกต้องตามกฎของไวยากรณ์นะคะ ซึ่งเรื่องนี้เราจะมาเรียนต่อไปในอนาคตค่ะ ดูเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่เพศของคำนาม
2. Was sind Sie von Beruf? (วาส ซินดฺ ซี ฟอน เบรูฟ)
คุณทำงานอะไรเหรอ? (คุณมีอาชีพอะไร?)
Ich bin Lehrerin von Beruf. (อิค บิน เลเรอะริน ฟอน เบรูฟ) ดิฉันเป็นครูค่ะ
Ich bin Kassiererin von Beruf. (อิค บิน คาสซีเรอะริน ฟอน เบรูฟ) ดิฉันเป็นพนักงานคิดเงินค่ะ
Ich bin Polizist von Beruf. (อิค บิน โพลิซิสทฺ ฟอน เบรูฟ) ผมเป็นตำรวจครับ
Ich bin Hotelmanagerin von Beruf. (อิค บิน โฮเท็ล-เมเนอเกอริน ฟอน เบรูฟ) ดิฉันเป็นผู้จัดการโรงแรมค่ะ
Ich bin ... von Beruf. (อิค บิน ...) ดิฉัน/ผม เป็น...ใส่ชื่ออาชีพลงไป
ข้อสังเกต ดังที่ได้เคยกล่าวมาแล้วในเรื่อง เพศของคำนาม ชื่ออาชีพในภาษาเยอรมันจะแบ่งออกชัดเจนเลยว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เวลาตอบต้องตอบให้ถูกต้องตามเพศนะคะ หลักในการจำก็คือถ้าเป็นเพศหญิงอาชีพต่าง ๆ จะลงท้ายด้วย -in หรือ -frau ค่ะ เช่น Bankkauffrau, Programmiererin, Ingenieurin เป็นต้น
3. Sind Sie verheiratet? (ซินดฺ ซี แฟรฺ-ไฮ-รา-เทต?)
คุณแต่งงานแล้วใช่ไหม?
Ja, ich bin verheiratet. (ย่ะ, อิค บิน แฟ-ไฮ-รา-เทต) ใช่ค่ะ/ครับ ดิฉัน/ผมแต่งงานแล้ว
Nein, ich bin ledig. (นายนฺ, อิค บิน เล-ดิก) ไม่ค่ะ/ครับ ดิฉัน/ผมโสดครับ/ค่ะ
Nein, ich bin geschieden. (นายนฺ, อิค บิน เก-ชี-เด้น) ไม่ค่ะ/ครับ ดิฉัน/ผมหย่าครับ/ค่ะ
Nein, ich bin Witwer/Witwe. (นายนฺ, อิค บิน วิทแวรฺ/ ไม่ครับ ผมเป็นหม้าย(ภรรยาเสียชีวิต)ครับ
(นายนฺ, อิคบิน วิทเว่อะ) ไม่ค่ะ ดิฉันเป็นหม้ายค่ะ
ข้อสังเกต จากที่ได้อ่านมาจะสังเกตได้ว่าภาษาเยอรมันเค้าเน้นเรื่องเพศกันเหลือเกิน การตอบคำถามว่าโสดไม่โสด แต่งไม่แต่งก็เช่นเดียวกันค่ะ คำถามนี้ตอบได้ 4 อย่างตามตัวอย่าง ทีนี้ผู้หญิงกับผู้ชายตอบได้เหมือนกัน 3 อย่างนะคะ ที่ไม่เหมือนกันมีแค่อย่างเดียวคือตอบว่าเป็นหม้ายจากสามี/ภรรยาตายนี่แหละค่ะ
4. Haben Sie Kinder? (ฮา-เบ็น ซี คินเดอรฺ?) คุณมีลูกหรือเปล่า?
Ja, ich habe 1 Kind. (ย่ะ, อิค ฮา-เบ่อะ อายนสฺ คินดฺ) มี ผม/ดิฉันมีลูก 1 คน
Ja, ich habe 2 Kinder. (ย่ะ, อิค ฮา-เบ่อะ ซไว คินเดอรฺ) มี ผม/ดิฉันมีลูก 2 คน
Ja, ich habe eine Tochter. (ย่ะ, อิค ฮา-เบ่อะ อายนฺเน่อะ ท็อคเทอรฺ) มี ผม/ดิฉันมีลูกสาว 1 คน
Ja, ich habe ein Sohn. (ย่ะ, อิค ฮา-เบ่อะ อายนฺ โซน) มี ผม/ดิฉันมีลูกชาย 1 คน
Ja, ich habe 2 Töchter und 3 Söhne (ย่ะ, อิค ฮา-เบ่อะ ซไว โท๊ด-เท่อะรฺ อุนดฺ ไตร โซ้เน่อะ) มี ผม/ดิฉันมีลูกสาว 2 คน และลูกชาย 3 คน

Ja, ich habe ... Kinder. (ย่ะ, อิค ฮา-เบ่อะ ... คินเดอรฺ) มี ผม/ดิฉันมีลูก...คน เติมตัวเลขลงไป
Nein, ich habe keine Kinder. (นายนฺ, อิค ฮา-เบ่อะ คายเน่อะ คินเดอรฺ) ไม่มี ผม/ดิฉันไม่มีลูก
ข้อสังเกต ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่ต้องทำความเข้าใจ แต่เราจะเรียนไปแบบช้า ๆ นะคะ เวลาถามคำถาม เขาจะถามในรูปพหูพจน์ (Plural) เสมอเช่น das Kind เป็นรูปเอกพจน์ (Singular) รูปพหูพจน์ของ Kind ก็คือ die Kinder ค่ะ ทีนี้ลองย้อนมาดูคำตอบถ้ามีลูกแค่คนเดียวก็ต้องตอบเป็นนามเอกพจน์ดังตัวอย่าง ถ้ามีมากกว่า 1 คนแน่นอนอยู่แล้วว่าคำตอบต้องเป็นพหูพจน์ และ Artikel ของคำนามก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยนะคะ เช่น das Kind-die Kinder, die Tochter-die Töchter, der Sohn-die Söhne และ Artikel ของนามพหูพจน์ต้องเป็น die เท่านั้นนะคะ อันนี้ต้องจำ
ทีนี้ลองมาดูที่การปฏิเสธกัน เราตอบปฏิเสธเป็นรูปพหูพจน์เช่นกันค่ะ คือตอบ ว่า Ich habe keine Kinder.
5. Wan sind Sie geboren? (วัน ซิน ซี เก-บอ-เร่น?)
คุณเกิดวันที่เท่าไหร่เหรอ?
Ich bin am 22. Mai 1962 geboren. ผม/ดิฉัน เกิดวันที่ 22 พฤษภาคม 1962
(อิค บิน อัม ซไว อุนดฺ ซวานซิกเท่น ไม นอยนฺเซนฮุนแดรท-ซไว อุนดฺ เซคสฺซิก เก-บอ-เร่น)
Ich bin am 25. April 1982 geboren. ผม/ดิฉัน เกิดวันที่ 25 เมษายน 1982
(อิค บิน อัม ฟุนฟฺ อุนดฺ ซวานซิกเท่น อาพริล นอยนฺเซนฮุนแดรท-ซไว อุนดฺ อัคซิก เก-บอ-เร่น)
Ich bin am 13. November 1998 geboren. ผม/ดิฉัน เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 1998
(อิค บิน อัม ไตรเซนเท่น โนเฟมเบอะรฺ นอยนฺเซนฮุนแดรท-อัค อุนดฺ นอยนฺซิก)
Ich bin am... (อิค บิน อัม...)
ผม/ดิฉัน เกิดวันที... ใส่วันที่ลงไป
ข้อสังเกต ดูเหมือนจะยากขึ้นมาแล้วใช่ไหมคะ กับการตอบคำถามเรื่องวันที่ และปี ดูเพิ่มเติมเรื่องการบอกวันเกิดและปีในภาษาเยอรมัน เพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นนะคะ

เราจะพักเรื่องคำถามเหล่านี้ไปก่อน แล้วไปต่อที่เรื่อง การอ่านวันที่และปี กันก่อนจากนั้นค่อยวกกลับมาที่คำถามอื่น ๆ กันบ้างนะคะ ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาเยอรมันค่ะ



Friday, March 28, 2008

มาลองนับเลขกัน (ภาคต่อ)

หลังจากที่ได้ไปฝึกหัดเขียนและนับตัวเลข 1-30 กันมาแล้ว คราวนี้เราจะมาเรียนรู้เลขอื่น ๆ กันบ้างนะคะ เริ่มกันเลยดีกว่า

10 zehn (เซน)

20 zwanzig (ซวานซิก)

30 dreißig (ไตรซิก)

40 vierzig (เฟียรฺซิก)

50 fünfzig (ฟุนฺฟซิก)

60 sechzig (เซคซิก)

70 siebzig (ซีบซิก)

80 achtzig (อัคทฺซิก)

90 neunzig (นอยนฺซิก)

100 (ein)hundert (อายนฺ ฮุนแดรฺท)

200 zweihundert (ซไว ฮุนแดรฺท)

300 dreihundert (ไตร ฮุนแดรฺท)

400 vierhundert (เฟียรฺ ฮุนแดรฺท)

500 fünfhundert (ฟุนฺฟ ฮุนแดรฺท)

600 sechshundert (เซคสฺ ฮุนแดรฺท)

700 siebenhundert (ซีเบน ฮุนแดรฺท)

800 achthundert (อัคทฺ ฮุนแดรฺท)

900 neunhundert (นอยนฺ ฮุนแดรฺท)


1.000 (ein)tausend (อายนฺ เทาเซ่นดฺ)

2.000 zweitausend (ซไว เทาเซ่นดฺ)

3.000 dreitausend (ไตร เทาเซ่นดฺ)

4.000 viertausend (เฟียรฺ เทาเซ่นดฺ)
...

9.000 neuntausend (นอยนฺ เทาเซ่นดฺ)

10.000 zehntausend (เซน เทาเซ่นดฺ) 1 หมื่น

100.000 (ein)hunderttausend (อายนฺ ฮุนแดรฺท เทาเซ่นดฺ) 1 แสน

200.000 zweihunderttausend (ซไว ฮุนแดรฺท เทาเซ่นดฺ) 2 แสน

300.000 dreihunderttausend (ไตร ฮุนแดรฺท เทาเซ่นดฺ) 3 แสน
...

1.000.000 eine Million (อาย-เน่อะ มิลลิโอน) หนึ่งล้าน

2.000.000 zwei Millionen (ซไว มิลลิโอเน่น) สองล้าน

3.000.000 drei Millionen (ไตร มิลลิโอเน่น) สามล้าน

1.000.000.000 eine Milliarde (อาย-เน่อะ มิลเลียรฺเด่อะ) พันล้าน

2.000.000.000 zwei Milliarden (ซไว มิลเลียรฺเด้น) สองพันล้าน

3.000.000.000 drei Milliarden (ไตร มิลเลียรฺเด้น) สามพันล้าน
...

1.000.000.000.000 eine Billion (อาย-เน่อะ บิลลิโอน) 1 ล้านล้าน

2.000.000.000.000 zwei Billionen (ซไว บิลลิโอเน่น) 2 ล้านล้าน

3.000.000.000.000 drei Billionen (ไตร บิลลิโอเน่น) 3 ล้านล้าน

วิธีการอ่านตัวเลขแบบต่าง ๆ

101 (ein)hundert(und)eins

108 (ein)hundert(und)acht

116 (ein)hundert(und)sechzehn

160 (ein)hundertsechzig

205 zweihundert(und)fünf

1001 (ein)tausend(und)eins

1010 (ein)tausend(und)zehn

1999 (ein)tausendneunhundertneunundneunzig

3333 dreitausenddreihundertdreiunddreißig

50218 fünfzigtausendzweihundertachtzehn

777777 siebenhundertsiebenundsiebzigtausendsiebenhundertsiebenundsiebzig

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ? แรก ๆ อาจจะงงเล็กน้อยค่ะ ต่อไปฝึกเขียนบ่อย ๆ เดี๋ยวก็คล่องเอง ให้สังเกตตัวเลขตั้งแต่หลักล้านขึ้นไปนะคะ ถ้าเป็นแค่ 1 ล้าน คือเป็นนามเอกพจน์ คำว่า Million ไม่ต้องเติม -en ค่ะ แต่ถ้าหากว่า 2 ล้านขึ้นไปอันนี้ถือว่าเป็นพหูพจน์ต้องหน้าตาของ Million ต้องเปลี่ยนเป็น Millionen แล้วนะคะ (คล้าย ๆ กับภาษาอังกฤษมั้ง ชักจะลืม ๆ ) หลักพันล้าน แล้วก็ล้านล้าน ก็เช่นเดียวกัน ให้สังเกตตรงไฮไลด์สีแดงนะคะ จะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เอาล่ะค่ะ คราวนี้เอาแค่จำนวนนับไปก่อน ยังเหลือบทเรียนอีกมากมายที่มีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง เอาไว้มาเรียนต่อคราวหน้านะคะ หลับฝันดีกันทุกคนค่ะ
Gute Nacht!

มาลองนับเลขกัน 1-30

สำหรับการเรียนภาษาเยอรมันนั้น สิ่งที่ดิฉันเห็นว่าง่ายที่สุดในบรรดาทั้งปวงก็คือ ตัวเลขนี่แหละค่ะ นับไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดไรมากมาย ไม่ต้องห่วงกับ Artikel เท่าไหร่นัก ถ้านับ 1-10 ได้ ต่อไปจะนับถึง พันล้านก็ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ มาดูกันเลย

จำนวนนับ
0 null (นุลลฺ)
1 eins (ไอนสฺ)
2 zwei (ซไว)
3 drei (ไตร)
4 vier (เฟียรฺ)
5 fünf (ฟุนฺฟ)
6 sechs (เซคสฺ)
7 sieben (ซีเบน)
8 acht (อัคทฺ)
9 neun (นอยนฺ)
10 zehn (เซน)
11 elf (เอ็ลฟฺ)
12 zwölf (ซโวลสฺ)
13 dreizehn (ไตรเซน)
14 vierzehn (เฟียรฺเซน)
15 fünfzehn (ฟุนฺฟเซน)
16 sechzehn (เซคเซน)
17 siebzehn (ซีบเซน)
18 achtzehn (อัคทฺเซน)
19 neunzehn (นอยนฺเซน)
20 zwanzig (ซวานซิก)
21 einundzwanzig (ไอนฺ อุนดฺ ซวานซิก)
22 zweiundzwanzig (ซไว อุนดฺ ซวานซิก)
23 dreiundzwanzig (ไตร อุนดฺ ซวานซิก)
24 vierundzwanzig (เฟียรฺ อุนดฺ ซวานซิก)
25 fünfundzwanzig (ฟุนฺฟ อุนดฺ ซวานซิก)
26 sechsundzwanzig (เซคสฺ อุนดฺ ซวานซิก)
27 siebenundzwanzig (ซีเบน อุนดฺ ซวานซิก)
28 achtundzwanzig (อัคทฺ อุนดฺ ซวานซิก)
29 neunundzwanzig (นอยนฺ อุนดฺ ซวานซิก
30 dreißig (ไตรซิก)

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หลักการง่าย ๆ คือ เลข 0-12 เราต้องท่องจำเป็นตัว ๆ ไปค่ะ ส่วน 13-19 จะลงท้ายด้วย -zehn วิธีการนับของชาวเยอรมันก็คือเอาหลักหน่วยมานับก่อนจากนั้นตามด้วยหลักสิบ เช่น
13 = 3 + 10 = dreizehn
14 = 4 + 10 = vierzehn
15 = 5 + 10 = fünfzehn
16 = 6 + 10 = sechzehn (ไม่มี s)
...
20 ก็เช่นเดียวกันค่ะ ตัวอย่าง
21 = 1 + 20 = einundzwanzig (ไม่มี s)
22 = 2 + 20 = zweiundzwanzig
23 = 3 + 20 = dreiund zwanzig
...
28 = 8 + 20 = achtundzwanzig
29 = 9 + 20 = neunundzwanzig

ที่นี้พอจะนึกออกไหมคะว่าเค้านับกันยังไง จากนี้ไป 30, 40, 50, ..., 90 ก็มีหลักเช่นเดียวกันกับตัวอย่างล่ะค่ะ บทต่อไปเราจะมาเรียนตัวเลขในหลักสิบทั้งหมด รวมทั้งหลักอื่น ๆ ด้วยค่ะ

ฝึกทักทาย ถามสารทุกข์ และการถามชื่อ (2)

คราวที่แล้วได้นำเสนอ ตัวอย่างบทสนทนาในการถามชื่อไปแล้วนะคะ คราวนี้จะมาสรุปให้ดูดังนี้ค่ะ

ถามชื่อและทักทายแบบเป็นทางการ ใช้สรรพนาม (Das Personalpronomen) Sie ค่ะ ถ้าแปลเป็นภาษาไทยเราก็คือ "คุณ" หรือ "ท่าน" นั่นเอง ทีนี้ลองมานึกดูนะคะ ว่าเราจะใช้ "คุณ" หรือ "ท่าน" ตอนไหนหากเราต้องสนทนากับใครสักคน คำตอบก็คือ ใช้เมื่อติดต่องาน(ราชการ) ใช้เมื่อไปซื้อของ ใช้กับคนที่เราไม่รู้จักหรือสนิทคุ้นเคยมาก่อนนั่นเองค่ะ ในการพบเจอกันครั้งแรก เราควรใช้สรรพนาม Sie ก่อนนะคะ หากต่อมารู้จักและคุ้นเคยกันดีจึงเปลี่ยนมาใช้ Du แทนค่ะ แต่สำหรับเด็กหรือคนที่อายุก่อนกว่าเรามาก ๆ อนุญาตให้ใช้ Du ได้ค่ะ
ลองมาทบทวนกันดูอีกรอบนะคะ
A: Guten Tag, Frau Brau. Wie geht es Ihnen?
B: Danke, gut. Und Ihnen?
A: Auch gut, danke.
...........
A: Guten Tag. Ich bin Detlef Otto, von VHS Schule. Und wie heißen Sie?
B: Ich heiße Tanja Fisher.
A: Und wie ist Ihr Name?
C: Mein Name ist Sabine Pohl.

จากตัวอย่างบทสนทนา มีสิ่งที่ควจทราบคือ การแนะนำตัว บอกได้ทั้งหมด 3 แบบ ค่ะ คือ
Ich bin.....(เติมชื่อลงไป)
Ich heiße.....(เติมชื่อลงไป)
Mein Name ist.....(เติมชื่อลงไป)
และคำถามในการถามชื่อที่พบบ่อยคือ
Wie heißen Sie?
Wie ist Ihr Name?
ข้อควรจำอีกประการหนึ่งคือ ถ้าถามว่า Wie heißen Sie? คำตอบ คือ Ich heiße....หรือบอกชื่อไปเลยก็ได้ หรือถ้าถามว่า Wie ist Ihr Name? คำตอบคือ Mein Name ist..... หรือบอกชื่อไปเลยก็ได้เช่นกัน อ่ะ...อะ อย่าสลับคำตอบนะคะ เพราะมันจะฟังดูทะแม่ง ๆ จะพูดภาษาเค้าทั้งที พูดแล้วให้ฟังดูดีและสละสลวยดีกว่าค่ะ ให้สังเกตข้อความที่ได้ทำไฮไลด์สีแดงนะคะ อาจทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

การถามชื่อและทักทายแบบกันเอง ใช้สรรพนาม Du ค่ะ Du เราจะใช้กับคนที่รู้จักแล้ว คนในครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนฝูง หรือเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนที่อายุน้อยกว่าเรา เช่น เด็ก ๆ เป็นต้น มาดูตัวอย่างกันอีกรอบนึง
A: Hallo, Paula!
B: Hallo, Anna!
A: Wie geht's?
B: Danke, gut. Und dir?
A: Mir geht auch gut, danke.
............
A: Hallo, ich bin Handan. Und wie heißt du?
B: Michael. Und du?
C: Ich heiße Sana.
จากตัวอย่าง คงจะพอเข้าใจมากขึ้นนะคะว่าใช้ต่างกันอย่างไร การแนะนำตัวทั้ง 2 สถานการณ์ใช้เหมือนกันค่ะ ส่วนการถามชื่อต้องผันกริยาตามสรรพนามที่เราใช้ ซี่งเรีองนี้เราต้องเรียนต่อไปค่ะ สำหรับการทักทายแบบเป็นกันเอง ใช้ Wie geht's? หรือ Wie geht es dir? ง่าย ๆ แค่นี้เอง

Deutsch macht mir Spaß

ฝึกทักทาย ถามสารทุกข์ และการถามชื่อ (1)

สวัสดีค่ะทุก ๆ คน ช่วงนี้ขยันอัพบล็อกเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าว่างมากน่ะค่ะ อยู่บ้านไม่มีไรจะทำ ก็นั่งเล่นเน็ต อ่านบล็อกไปเรื่อย ช่วงนี้อากาศดีมั่ก ๆ แดดจ้าเชียว (ฮิ ๆ..ดีจริงเปล่าไม่รู้) ยังไงก็รักษาสุขภาพกันทุกคนนะคะ

เอาล่ะค่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า การทักทายในภาษาเยอรมัน ก็เหมือนกับทุกภาษาในโลกนี้ล่ะค่ะ มีทั้งแบบเป็นทั้งการและไม่เป็นทางการ วันนี้จะนำเสนอให้ทั้ง 2 แบบ ให้อ่านและเปรียบเทียบดูนะคะ

บทสนทนา 1 (2 คนนี้รู้จักกันแล้ว แต่สถานะคือลูกค้าและพนักงานต้อนรับ ไม่ใช่บุคคลที่ใกล้ชิดกัน)
A: Guten Tag, Frau Brau. (กู๊ทเท่น ท้าก, เฟรา เบรา)
สวัสดีครับคุณเบรา
B: Guten Tag, Herr Schmidt. Wie geht es Ihnen? (กู๊ทเท่น ท้าก, แฮรฺ ชมิดทฺ วีเก้ท เอส อีเน่น?)
สวัสดีค่ะ คุณชมิทดฺ สบายดีไหมคะ
A: Danke, gut. Und Ihnen? (ดั้งเค่อะ, กู๊ท อุนดฺ อีเน้น)
สบายดีครับ ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ?(สบายดีไหม)
B: Auch gut, danke. (เอาทฺ กู๊ท, ดั้งเค่อะ)
สบายดีเช่นกันค่ะ ขอบคุณ

บทสนทนาที่ 2 (ทักทายแบบกันเอง-เพื่อนกัน)
A: Hallo, Paula! (ฮาลโหล เพาล่า)
หวัดดี เพาล่า
B: Hallo, Anna! (ฮาลโหล อันนา)
หวัดดี อันนา
A: Wie geht's? (วี เกทสฺ)
เป็นไง สบายดีไหม
B: Danke, gut. Und dir? (ดั้งเค่อะ กู๊ท อุนดฺ เดียรฺ)
สบายดี ขอบใจ แล้วเธอล่ะ?
A: Mir geht auch gut, danke. (เมียรฺ เกททฺ เอาทฺ กู๊ท, ดั้งเค่อะ)
ฉันก็สบายดีเหมือนกัน ขอบใจจ้ะ

บทสนทนาที่ 3 (ที่โรงเรียนสอนภาษาวันแรก)
A: Guten Tag. Ich bin Detlef Otto, von VHS Schule. Und wie heißen Sie? (กู๊ทเท่น ท้าก อิค ไฮเซ่ เด็ทเล็ฟ อ๊อตโต้ ฟอน เฟาฮาเอส ชูเล่อะ. อุนดฺ วี ไฮเซ่น ซี)
สวัสดีครับ ผมชื่อเดทเล็ฟ ออตโต้ จาก โรงเรียนสอนภาษา VHS ครับ คุณชื่ออะไรครับ?
B: Ich heiße Tanja Fisher. (อิค ไฮเซ่ ทันย่า ฟิชเช่อะ)
ดิฉันชื่อทันย่า ฟิชเช่อะ ค่ะ
A: Und wie ist Ihr Name? (อุนดฺ วี อีสทฺ เอียรฺ นาเม่อะ)
แล้วคุณชื่ออะไรครับ
C: Mein Name ist Sabine Pohl. (มายนฺ นาเม่อะ อีสทฺ ซาบีเน่อะ โพล)
ดิฉันชื่อ ซาบีเน่อะ โพล ค่ะ
...........
D: Hallo, ich bin Handan. Und wie heißt du? (ฮาลโหล อิค บิน ฮันดัน อุนดฺ วี ไฮสทฺ ดู)
หวัดดี ฉันชื่อฮันดัน เธอชื่อไรเหรอ?
E: Michael. Und du? (มิชาเอล อุนดฺ ดู)
มิชาเอล แล้วเธอล่ะ? (ชื่ออะไร?)
F: Ich heiße Sana. (อิค ไฮเซ่อะ ซาน่า)
ฉันชื่อซาน่า

ได้ดูตัวอย่างบทสนทนาทั้ง 3 ไปแล้ว คงจะเห็นคร่าว ๆ คะนะ ว่ามันแตกต่างกัน คราวหน้าเราจะมาดูกันนะคะ ว่า 3 บทสนทนานี้มันต่างกันอย่างไร และเราจะเลือกใช้บทสนทนาใดในสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วพบกันใหม่ค่ะ

Thursday, March 27, 2008

เพศของคำนาม

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามารู้จักคำนาม (Das Nomen) ในภาษาเยอรมันกันดูนะคะ บางท่านอาจได้ยินมาบ้างแล้วว่าคำนามของภาษาเยอรมันนั้นมีเพศกันทุกตัว (Ohh..Gott) ถูกต้องแล้วแล้วล่ะค่ะ คำนามในภาษาเยอรมันนั้น จะมีเพศกันทุกตัว คำนามแบบชี้เฉพาะ (bestimmter Artikel) เป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้เป็นอันอับแรกค่ะ นั่นก็คือ der, die และ das

1. คำนามเพศชาย (maskulin) m-der เช่น der Vater (พ่อ), der Bruder (น้อง/พี่ชาย), der Onkel (ลุง), der Tag (วัน), der Januar (เดือนมกราคม), der Februar (เดือนกุมภาพันธ์), der Frühling (ฤดูใบไม้ผลิ), der Sommer (ฤดูร้อน) Der Morgen (ตอนเช้า), der Abend (ตอนเย็น), der Osten (ทิศตะวันออก), der Süden (ทิศใต้), der Ton (ดินเหนียว), der Sand (ทราย), Der Opel (รถโอเปิ้ล), der Kaffee (กาแฟ), der Tee (ชา), der See (ทะเล), der Student (นักศึกษาชาย), der Schüler (นักเรียนชาย), der Offizer (ข้าราชการชาย) ฯลฯ

2. คำนามเพศหญิง (feminin) f-die เช่น die Mutter (แม่), die Schwester (น้อง/พี่สาว), die Tante (ป้า), die Tochter (ลูกสาว), die Schülerin (นักเรียนหญิง), die Gesundheit (สุขภาพ), die Universität (มหาวิทยาลัย), die Übung (แบบฝึกหัด), die Ärztin (แพทย์หญิง), die Thailänderin (หญิงไทย), die Lehrerin (ครูผู้หญิง), die Politik (การเมือง), die Kamera (กล้องถ่ายรูปฉ, die Grammatik (ไวยากรณ์), die Reportage (การรายงานข่าว) ฯลฯ

3. คำนามเพศกลาง (neutral) n-das เช่น das Kind (เด็ก), das Auto (รถยนต์), das Essen (อาหาร), das Deutsche (ภาษาเยอรมัน), das Mädchen (เด็กผู้หญิง), das Hotel (โรงแรม), das Kino (โรงภาพยนต์), das Museum (พิพิธภัณฑ์), das Schwein (หมู), das Lamm (ลูกแกะ) ฯลฯ

เอาล่ะค่ะ บางท่านอาจสงสัยว่าแล้วจะทราบได้อย่างไรว่าคำนามคำใดเป็นเพศชายหรือหญิง หรือเพศกลาง คำตอบก็คือ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ มีกฎที่อาจใช้ได้บ้างแต่ไม่เสมอไป เรื่องนี้ต้องอาศัยการจำและฝึกฝนค่ะ ค่อย ๆ เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ และนำไปใช้ก็จะทำให้เราแม่นยำมากยิ่งขึ้นค่ะ

หลักในการกำหนดเพศของคำนาม
1. เพศตามธรรมชาติ เช่น der Vater-die Mutter (พ่อ-แม่), der Bruder-die Schwester (พี่ชาย-น้องสาว), der Sohn-die Tochter (ลูกชาย-ลูกสาว)
2. ชื่ออาชีพต่าง ๆ บ่งบอกว่าเป็นเพศชายหรือหญิง เช่น der Lehrer-die Lehrerin (ครูชาย-หญิง), der Chef-die Chefin (เจ้านาย/หัวหน้าชาย-หญิง), der Taxifahrer-die Taxifahrerin (คนขับรถแท็กซี่ชาย-หญิง) ฯลฯ
3. วันและเดือน ต่าง ๆ เป็นเพศชาย เช่น der Montag, der Dienstag...der Sonntag, der Januar, der Febuar, der März...der Dezember
4. ฤดูกาลทั้ง 4 เป็นเพศชายทั้งหมด ได้แก่ der Frühling, der Sommer, der Harbst และ der Winter
5. เวลาใน 1 วัน เป็นเพศชาย เช่น der Morgen, der Vormittag, der Mittag, der Nachmittag และ der Abend ยกเว้นกลางคืนเป็น die Nacht
6. ชื่อทิศต่าง ๆ เป็นเพศชายทั้งหมด เช่น der Norden, der Süden
7. รถยนต์ทุกยี่ห้อเป็นเพศชายทั้งหมด เช่น der VW, der BMW, der Opel
8. คำนามที่ลงท้ายด้วย -heit, -kiet, -ung, -schaft, ei, -in เป็นเพศหญิงทั้งหมด เช่น die Freiheit, die Übung, die Wissenschaft, die Ärztin
9. จำนวนนับต่าง ๆ เป็นเป็นหญิง เช่น die Eins, die Tausend
10. คำนามที่ลงท้ายด้วย -chen, -lein เป็นเพศกลาง เช่น das Mädchen, das Büchlein

และเหล่านี้ก็คือเกร็ดเล็กน้อยเอาไว้เป็นแนวทางในการเรียนรู้ต่อไปนะคะ การเรียนภาษาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องอาศัยการฝึกฝนทั้งเรื่องการฟัง พูด อ่าน เขียน อีกทั้งสำเนียงการออกเสียงจะต้องให้ชัดเจน เพื่อให้สื่อสารได้สมเจตนารมณ์ ขอเอาใจช่วยทุกคนที่อยากพูดภาษาเยอรมันได้นะคะ


Das Alphabet พยัญชนะและสระ

สวัสดีค่ะทุกคน เพิ่งหัดทำบล็อกจาก www.bloggang.com ได้ไม่นานก็เกิดอุบัติเหตุ บล็อกที่เคยโพสต์ ๆ ไว้หายไปหมดเลย (เกิดไรขึ้นก็ไม่ทราบ) ครั้งนี้เลยหันมาใช้บริการเจ้าใหม่อยากที่เห็นนี่แหละค่ะ

เอาล่ะค่ะ มาเข้าเรื่องกัน ก่อนเริ่มเรียนภาษาเยอรมัน อันดับแรกเลย ลองมารู้จักพยัญชนะ แล้วก็สระในภาษานี้กันก่อน ที่นำเสนอนี้เป็นการนำเสนอพยัญชนะแบบสะกดให้พร้อมนะคะ เพื่อว่ามีเหตุอันใดให้เราต้องสะกดคำให้ชาวบ้านฟัง จะได้เข้าใจตรงกันไม่ผิดเพี้ยนค่ะ ท่องไว้ไม่เสียหลาย (รับรองได้ใช้แน่นอน)

พยัญชนะในภาษาเยอรมัน
A wie Anton (อา วี อันตอน)
B wie Berta (เบ วี แบรฺทา)
C wie Cäsar (เซ วี แคซารฺ)
D wie Dora (เด วี โดรา)
E wie Emil (เอ วี เอมิล)
F wie Friedrich (เอฟ วี ฟรีดริค)
G wie Gustav (เก วี กุสทาพ)
H wie Heinrich (ฮา วี ไฮนฺริค)
I wie Ida (อี วี อีด้า)
J wie Julius (ยอท วี ยูลิอุส)
K wie Konrad (คา วี คอนราด)
L wie Ludwig (เอ็ล วี ลูดวิก)
M wie Matha (เอ็ม วี มาธา)
N wie Nordpol (เอ็น วี นอรฺดโพล)
O wie Otto (โอ วี อ็อตโต้)
P wie Paula (เพ วี เพาล่า)
Q wie Quelle (คู วี ควลเล่อะ)
R wie Richard (แอรฺ วี ริชารฺด)
S wie Siegfried (เอส วี ซีกฟรีด)
T wie Theodor (เท วี เทโอดอรฺ)
U wie Ulrich (อู วี อูลริค)
V wie Viktor (ฟาว วี วิคเตอรฺ)
W wie Wilhelm (เว วี วิลเฮลฺม)
X wie Xanthippe (อิ๊คสฺ วี ซานทิพเพ่อะ)
Y wie Ypsilon (อิ๊พซีลอน วี อิ๊พซีลอน)
Z wie Zeppilin (เซท วี เซพพิลิน)

พยัญชนะพิเศษ
Ä wie Ärger (แอ วี แอรฺเกอรฺ)
Ö wie Öl (โอว วี โอล) * ให้ออกเสียงเร็ว ๆ ติดกันคล้าย ๆ กับ e..u..e..u
Ü wie Übermut (อู วี อูเบ้อมูท) ** ให้ออกเสียงเร็ว ๆ ติดกันคล้าย ๆ กับ i..e..i..e
ß เอสเซ็ส ออกเสียงเหมือนกันกับ Double ss ในภาษาอังกฤษค่ะ

สระ
A
แทนเสียงสระ อะ หรือ อา
E แทนเสียงสระ เอะ หรือ เอ
I แทนเสียงสระ อิ หรือ อี
O แทนเสียงสระ โอะ หรือ โอ
U แทนเสียงสระ อุ หรือ อู

เอาล่ะค่ะ วันนี้ไปท่องสระแล้วก็พยัญชนะในภาษาเยอรมันให้ขึ้นใจก่อน คราวหน้าต้องมาลุ้นกันค่ะว่าจะเรียนอะไรกันดี
Einen schönen Tag und viel Spaß biem Deutsch lernen.

Real Player Download